วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กาแฟที่คุณชื่นชอบ มาจากสายพันธุ์อะไร ?

            เชื่อว่าคอกาแฟทุกคนต่างก็รู้จักกาแฟพันธุ์อราบิก้าและโรบัสต้า กันอยู่แล้ว หนึ่งคำถามที่ผมอยากถามคุณก่อนคือ กาแฟแก้วโปรดของคุณมาจากกาแฟสายพันธุ์ไหน ? โรบัสต้า อราบิก้า หรือ ผสมกันทั้งสองตัว
         
            แล้วอราบิก้ากับโรบัสต้านี่มันต่างกันอย่างไรหล่ะ ?

            เคยได้ยินมาว่า โรบัสต้า มีรสชาติ ขม เข้ม บอดี้แน่น เปรี้ยว มีกลิ่นสาป .... ส่วนอราบิก้า มีกลิ่นที่หอมกว่า รสนุ่ม บอดี้น้อย .... ผมกลับมาคิดต่อว่า ถ้าจะเลือกดื่มกาแฟสักถ้วย เราคงเลือกดื่มกาแฟที่มีกลิ่นหอม รสนุ่ม อยู่แล้ว แถมอราบิก้าเป็นสายพันธุ์ที่มีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่าโรบัสต้าอีกต่างหาก แล้วทำไมยังผลิต โรบัสต้า ออกมาอีก

            จนได้รู้กลิ่นที่ดีหรือไม่ดี เกิดขึ้นตั้งแต่พันธุ์ที่ปลูก พื้นที่ที่ปลูก กระบวนการเก็บเกี่ยว โรบัสต้าก็มีกลิ่นหอมได้ โรบัสต้าและกาแฟอื่นๆที่กลิ่นไม่ดี เป็นเพียงแค่กาแฟที่คุณภาพไม่ดีเท่านั้น

            Robusta กาแฟโรบัสต้า มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Coffea canephora Pieere ex Froehner อยู่ในวงศ์ Rubiaceaeกาแฟโรบัสตามีปริมาณคาเฟอีนมากว่ากาแฟอราบิกา จึงมีรสขมมากกว่าและมี ความเด่นในเรื่องความเข้มข้น แต่มีความหอมของกาแฟน้อยกว่าพันธุ์อราบิก้า ให้บอดี้สูง
               
            Arabica กาแฟอราบิก้า มีจุดเด่นที่ ความหอม ซึ่งมีมากกว่าสายพันธุ์โรบัสต้า ความเป็นกรดสูงทำให้เกิดรสเปรี้ยว ส่วนจะเปรี้ยวมากเปรี้ยวน้อยขึ้นอยู่กับ ระดับความสูงของพื้นที่ปลูกและกระบวนการผลิตไปจนถึงระดับการคั่วด้วย  บอดี้น้อย และมีคาเฟอีนน้อยกว่าโรบัสต้า เป็นเท่าตัว

            ทั้งสองสายพันธุ์ต่างมีข้อดี - ข้อเสียที่ต่างกัน ทำให้เกิดมีการผสมเมล็ดกาแฟทั้งสองตัวรวมกัน เพื่อให้ได้ข้อดีของอีกสายพันธุ์หนึ่ง ส่วนปริมาณการผสมนั้นอยู่ที่แต่ละร้านจะเลือกใช้ 

           มีอีกวัตถุประสงค์หนึ่งที่คนส่วนใหญ่บริโภคกาแฟ นั้นคือเพื่อความกระปรี่กระเปร่า ที่เป็นผลมาจากคาเฟอีนในกาแฟ รายคนที่ดื่มอราบิก้าล้วนๆ อาจรู้สึกไม่หายง่วง ร่างกายบางคนต้องการคาเฟอีนสูงถึงกับดื่มก่อนนอนเลยก็มี เพราะปริมาณคาเฟอีนน้อย แถมยังถูกเจือจางด้วยน้ำตามแบบกาแฟดำ หรือนมสด นมข้นต่างๆ ตามแบบกาแฟเย็นตามร้านทั่วไป ถ้าต้องการให้หายง่วงก็ต้องเลือกกาแฟผสม หรือกาแฟโรบัสต้า เพื่อให้ได้คาเฟอีนที่ปริมาณมากขึ้น 
         


         
           

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

มารู้จักกับ บาริสต้า กันเถอะ

           เรื่องราวของอาชีพบาริสต้านี้ ผมหยิบยกมาจากหนังสือของคุณ จิฮิโร่ โยโกยาม่า บาริสต้าร้าน Bar Del Sole
           
           " บาริสต้า คือ คนชงกาแฟ " คนส่วนใหญ่มักจะให้คำจำกัดความของบาริสต้าด้วยคำพูดนี้ ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่ต่างคิดว่างานของบาริสต้าก็คือการตั้งใจชงกาแฟ  บาริสต้าเป็นงานที่อาศัย " จิตใจ เทคนิค และความสามารถ " เหมือนกับคนรับใช้ ผู้ซึ่งรักงานบริการ

        " จิตใจ " คือ การเปิดใจและจิตใจที่ทำให้คนมีความสุข 
                  เพราะงานบาริสต้าเป็นงานบริการ จึ่งต้องคอยพิจารณาว่าลูกค้ามาที่ร้านเพื่ออะไร พอใจแค่ไหน จะทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจและมีความสุข การบริการแบบเป็นกันนเองก็สามารถทำให้ลูกค้ามีความสุขได้ 

         " เทคนิค " คือ การใช้ร่างกายสัมผัสและฝึกฝนจนมีเทคนิคที่ชำนาญ                                    
                  การฝึกฝน เป็นเทคนิคเฉพาะตัวของแต่ละคน นอกจากการฝึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่มีวิธีใดอีกแล้ว เพราะจะต้องฝึกจนร่างกายเคยชิน 

          " ความสามารถ " คือ ความสามารถที่จะบรรลุเป้าหมายและความขยันมุ่งมั่น
                   ความสามารถที่จะบรรลุเป้า นั้นคือ ความขยันและความมุ่งมั่น การขยันฝึกฝน และขยันเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาจะทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 



ข้อมูล : หนังสือ BARISTA BOOK เส้นทางสู่สุดยอดนักชงกาแฟ
รูปภาพประกอบ : http://www.cocoajava.com/wp-content/uploads/2012/02/The_Barista_Angel_Andy.jpg

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สี สื่อความหมาย

            สีแต่ละสีให้ความรู้สึกที่ต่างกัน ไม่ว่างจะในเชิงจิตวิทยาหรือเชิงสัญลักษณะ และมีความสำคัญพอสมควรในการเลือกใช้สี เพื่อให้การตกแต่งร้านออกมาน่ามองที่สุด มีลูกค้าหลายคนเลือกเข้าร้านกาแฟหรือร้านอาหาร เพราะร้านสวย สีที่ใช้ตกแต่งร้านนั้นจะดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาในร้านกาแฟของคุณ การเลือกใช้สีสำหรับบางคน บางสิ่ง บางอย่าง ให้อารมณ์ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป
สี เหมือนกับจะสื่อสารเพียงแค่ "อารมณ์ความรู้สึก" ออกไปอย่างเดียว แต่บางที "ความหมาย" ที่ซ่อนอยู่ภายใต้สีอาจจะบอกอะไรมากกว่านั้น ในแต่ละวัฒนธรรมก็ตั้งกรอบความคิดของสีแต่ละสีตามจารีตประเพณี

       ความรู้สึกเกี่ยวกับสีต่างๆ
              
              สีแดง ความรู้สึกในเชิงจิตวิทยา ให้ความรู้สึกร้อน  รุนแรง กระตุ้น ท้าทาย  เคลื่อนไหว  ตื่นเต้น เร้าใจ  มีพลัง ความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง  ความรัก ความสำคัญ  อันตราย ส่วนความหมายในเชิงสัญลักษณ์ มีความอบอุ่น ร้อนแรง เปรียบดังดวงอาทิตย์ นอกจากนี้ยังแสดงถึง ความมีชีวิตชีวา ความรัก  ความปรารถนา เช่นดอกกุหลาบแดงวัน วาเลนไทน์  ในทางจราจรสีแดงเป็นเครื่องหมายประเภทห้าม แสดง ถึงสิ่งที่อันตราย  เป็นสีที่ต้องระวัง  เป็นสีของเลือด ในสมัยโรมัน สีของราชวงศ์เป็นสีแดง แสดงความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์และอำนาจ

                      สีเหลือง ความรู้สึกในเชิงจิตวิทยา ให้ความรู้สึกแจ่มใส  ความสดใส  ความร่าเริง  ความเบิกบานสดชื่น ชีวิตใหม่  ความสด  ใหม่  ความสุกสว่าง  การแผ่กระจาย  อำนาจบารมี ส่วนความหมายในเชิงสัญลักษณ์ แสดงถึง ความสดใส  ความเบิกบาน โดยเรามักจะใช้ดอกไม้สีเหลือง ในการไปเยี่ยมผู้ป่วย และแสดงความรุ่งเรืองความมั่งคั่ง และฐานันดรศักดิ์ ในทางตะวันออกเป็นสีของกษัตริย์  จักรพรรดิ์ของจีนใช้ฉลอง พระองค์สีเหลือง  ในทางศาสนาแสดงความเจิดจ้า ปัญญา พุทธศาสนา และยังหมายถึงการเจ็บป่วย  โรคระบาด ความริษยา ทรยศ  หลอกลวง 

                       สีเขียว ความรู้สึกในเชิงจิตวิทยา ให้ความรู้สึก สงบ  เงียบ  ร่มรื่น  ร่มเย็น  การพักผ่อน  การผ่อนคลาย ธรรมชาติ  ความปลอดภัย  ปกติ  ความสุข  ความสุขุม  เยือกเย็น ส่วนความหมายในเชิงสัญลักษณ์ แสดงถึง ธรรมชาติสีเขียว ร่มเย็น มักใช้สื่อความหมายเกี่ยวกับการ อนุรักษ์ธรรมชาติ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม การเกษตร   การเพาะปลูก การเกิดใหม่ ฤดูใบไม้ผลิ การงอกงาม ในเครื่องหมายจราจร หมายถึงความปลอดภัย  ในขณะเดียวกัน อาจหมายถึงอันตราย ยาพิษ เนื่องจากยาพิษ  และสัตว์มีพิษ ก็มักจะมีสีเขียวเช่นกัน

                        สีน้ำเงิน ความรู้สึกในเชิงจิตวิทยา ให้ความรู้สึกสงบ  สุขุม  สุภาพ  หนักแน่น  เคร่งขรึม  เอาการเอางาน ละเอียด  รอบคอบ  สง่างาม  มีศักดิ์ศรี  สูงศักดิ์  เป็นระเบียบถ่อมตน ส่วนความหมายในเชิงสัญลักษณ์ แสดงถึง ความเป็นสุภาพบุรุษ  มีความสุขุม หนักแน่น   และยังหมายถึงความสูงศักดิ์ ในธงชาติไทย สีน้ำเงินหมายถึงพระมหากษัตริย์ ในศาสนาคริตส์เป็นสีประจำตัวแม่พระโดยทั่วไปสีน้ำเงินหมายถึงโลกซึ่งเราจะเรียกว่าโลกสีน้ำเงิน (BluePlanet)  เนื่องจากเป็นดาวเคราะห์ที่มองเห็นจากอวกาศโดยเห็นเป็นสีน้ำเงินสดใส เนื่องจากมีพื้นน้ำที่กว้างใหญ่ 

                        สีม่วง ความรู้สึกในเชิงจิตวิทยา ให้ความรู้สึก มีเสน่ห์  น่าติดตาม  เร้นลับ  ซ่อนเร้น  มีอำนาจ  มีพลังแฝงอยู่ ความรัก  ความเศร้า  ความผิดหวัง  ความสงบ  ความสูงศักดิ์ ส่วนความหมายในเชิงสัญลักษณ์ แสดงถึง พลัง  ความมีอำนาจ ในสมัยอียิปต์สีม่วงแดงเป็นสีของกษัติรย์ ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยโรมัน  นอกจากนี้  สีม่วงแดงยังเป็นสีชุดของพระสังฆราช  สีม่วงเป็นสีที่มีพลังหรือการมีพลังแอบแฝงอยู่ และเป็นสีแห่ง ความผูกพัน องค์การลูกเสือโลกก็ใช้สีม่วง ส่วนสีม่วงอ่อนมักหมายถึงความเศร้า ความผิดหวังจากความรัก 

                         สีฟ้า ความรู้สึกในเชิงจิตวิทยา ให้ความรู้สึก ปลอดโปร่งโล่ง  กว้าง  เบา  โปร่งใส สะอาด ปลอดภัย  ความสว่าง ลมหายใจ ความเป็นอิสระเสรีภาพ การช่วยเหลือ แบ่งปัน  ส่วนความหมายในเชิงสัญลักษณ์ แสดงถึง ความสว่าง ความปลอดโปร่ง เปรียบเหมือนท้องฟ้า เป็นอิสระเสรี เป็นสีขององค์การสหประชาชาติ เป็นสีของความสะอาด ปลอดภัย สีขององค์การอาหารและยา (อย.) แสดงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานอย่างสะอาด แสดงถึงอิสรภาพ ที่สามารถโบยบินเป็นสีแห่ง ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่ไม่มีขอบเขตสีทองมักใช้แสดงถึง   คุณค่า  ราคา  สิ่งของหายาก  ความสำคัญ  ความสูงส่งสูงศักดิ์   ความศรัทธาสูงสุด ในศาสนาพุทธ หรือ   เป็นสีกายของพระพุทธรูป  ในงานจิตรกรรมเป็นสีกายของพระพุทธเจ้า พระมหากษัตริย์ หรือเป็นส่วนประกอบของเครื่องทรง เจดีย์ต่างๆมักเป็นสีทอง หรือขาวและเป็นเครื่องประกอบยศศักดิ์ ของกษัตริย์และขุนนาง 

                        สีขาว ความรู้สึกในเชิงจิตวิทยา ให้ความรู้สึก บริสุทธิ์  สะอาด สดใส เบาบาง อ่อนโยน  เปิดเผย การเกิด  ความรัก ความหวัง  ความจริง  ความเมตตา ความศรัทธา  ความดีงาม ส่วนความหมายในเชิงสัญลักษณ์ แสดงถึง ความสะอาด  บริสุทธิ์ เหมือเด็กแรกเกิด  แสดงถึงความว่างเปล่า ปราศจากกิเลส ตัณหา เป็นสีอาภรณ์ของผู้ทรงศีล ความเชื่อถือ ความดีงาม ความศรัทธา และหมายถึงการเกิดโดยที่แสงสีขาว เป็นที่กำเนิดของแสงสีต่างๆ เป็นความรักและความหวัง ความห่วงใยเอื้ออาทรและเสียสละของพ่อแม่ ความอ่อนโยน  จริงใจ บางกรณีอาจหมายถึง ความอ่อนแอ ยอมแพ้ 

                        สีดำ ความรู้สึกในเชิงจิตวิทยา ให้ความรู้สึก มืด สกปรก ลึกลับ  ความสิ้นหวัง  จุดจบ ความตาย ความชั่ว ความลับ ทารุณ โหดร้าย ความเศร้า หนักแน่น เข้มเข็ง อดทน มีพลัง ส่วนความหมายในเชิงสัญลักษณ์ แสดงถึง ความมืด ความลึกลับ สิ้นหวัง ความตายเป็นที่สิ้นสุดของทุกสิ่งโดยที่สีทุกสี เมื่ออยู่ในความมืดจะเห็นเป็นสีดำนอกจากนี้ยังหมายถึง ความชั่วร้าย ในคริสต์ศาสนาหมายถึง ซาตาน อาถรรพ์เวทมนต์ มนต์ดำไสยศาสตร์ ความชิงชัง ความโหดร้าย  ทำลายล้าง  ความลุ่มหลงเมามัว แต่ยังหมายถึงความอดทน กล้าหาญ เข้มแข็ง และเสียสละได้ด้วย 

                        สีชมพู ความรู้สึกในเชิงจิตวิทยา ให้ความรู้สึก อบอุ่น  อ่อนโยน  นุ่มนวล  อ่อนหวาน  ความรัก  เอาใจใส่  วัยรุ่น หนุ่มสาว  ความน่ารัก ความสดใส ส่วนความหมายในเชิงสัญลักษณ์ แสดงถึง ความอบอุ่น อ่อนโยน ความอ่อนหวาน นุ่มนวล  ความน่ารักแสดงถึงความรักของมนุษย์โดยเฉพาะรุ่นหนุ่มสาว  เป็นสีของความเอื้ออาทร  ปลอบประโลม  เอาใจใส่ดูแล  ความปรารถนาดี  และอาจหมายถึงความเป็นมิตร  เป็นสีของวัยรุ่น   โดยเฉพาะผู้หญิง และนิยม ใช้กับสิ่งของเครื่องใช้ของเด็กวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่

วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555

6W2H ถามตัวเอง เพื่อประเมินก่อนเปิดกิจการ

            มาลองใช้กฎ 6W2H ประเมินตัวคุณเองและวางแผนให้พร้อมก่อนจะเปิดกิจการ เพื่อทำให้คุณรับรู้และเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตัวคุณเองว่าพร้อมแค่ไหน
            อะไรคือ 6W2H ?  ....  6W2H ได้แก่ why , when , where , what , whom , who , how mach และ how to คำตอบของแบบประเมินเหล่านี้ที่คุณตอบ จะเป็นเหมือนแนวทางในการทำร้านของคุณ เริ่มจาก

   why .... ทำไมคุณอยากเปิดร้านกาแฟ ?
          แน่นอนนี่คือคำถามแรกสุดที่คุณควรถามตัวคุณเองก่อนเลย  อยากทำงานอิสระ? อยากเป็นเจ้านายตัวเอง? อยากมีเวลาอย่างเสรี? อยากสร้างรายได้ด้วยตัวเอง? ชอบดื่มกาแฟ? ชอบชงกาแฟและบริการลูกค้า?  คำตอบของคุณจะเป็นเหมือนแรงจูงใจในการทำร้านกาแฟ 

     when .... คุณวางแผนว่าจะเปิดร้านเมื่อไหร่ ?
               คำถามข้อนี้เป็นการเตรียมตัวเพื่อเปิดร้าน  รอเก็บเงินให้มากพอแล้วจะเปิด? รอจนเรียนชงกาแฟเสร็จ? วางแผนว่าจะใช้เวลาเตรียมตัวสัก 3 - 5 ปี? ตอนนี้พร้อมแล้ว สามารถเปิดร้านได้ทันที? แค่มีความคิดว่าจะเปิด แต่ยังไม่รู้ว่าจะเปิดเมื่อไหร่ดี?

     where .... คุณอยากเปิดร้านกาแฟที่ไหน ? 
               อยากเปิดร้านกาแฟใกล้บ้าน? อยากเปิดในที่มีผู้คนพลุกพล่าน? อยากทำการค้าในตึกสำนักงาน? อยากเปิดในแหล่งท่องเที่ยว มีวิวสวยๆ? มีร้านแห่งหนึ่งกำลังจะไปเซ้งต่อ? ยังไม่ได้คิดไว้เลย เจอเมื่อไหร่ก็จะเปิด? คำตอบจากคำถามข้อนี้ จะเป็นการวางแผนในการเปิดร้านกาแฟ

     what .... อยากขายอะไรในร้านกาแฟของคุณ ?
               คุณอยากเปิดร้านที่ขายเฉพาะกาแฟอย่างเดียว? อยากขายร่วมกับเครื่องดื่มชนิดอื่นด้วย? หรือมีพวกขนม ของว่างด้วยไหม? หรือขายร่วมกับสินค้าอื่นๆ เช่น ดอกไม้ เครื่องเขียน อุปกรณ์เกี่ยวกับกาแฟ เบเกอรี่? สินค้าภายในร้านคุณที่คุณกำหนดขายนั้น จะช่วยให้คุณตั้งเป้าหรือคำนวณยอดขายล่วงหน้าได้ เพื่อจัดทำและวางแผนดำเนินการ 
     
    whom .... อยากขายกาแฟของคุณให้กับใคร ?
               กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้เป็นคนกลุ่มไหน? คนทำงาน? นักเรียน? คนในชุมชน? อาชีพอะไร? ผู้หญิง ผู้ชาย? คนที่ชอบกาแฟ? คนที่อยากพักผ่อน? รายได้สูงไหม? ไม่รู้จะขายให้กับใคร ขอแค่มีคนเข้าร้านก็พอแล้ว? การกำหนดกลุ่มเป้าหมายนั้นสำคัญตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนเปิดร้าน เนื่องจากข้อมูลที่ได้จากการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย จะเป็นตัวบอกว่าคุณควรทำร้านอย่างไรให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย 
       
     who .... ใครเป็นผู้ดำเนินกิจการในร้านแห่งนี้ ?
           คุณดำเนินกิจการคนเดียวหรือเปล่า? มีหุ้นส่วนคนอื่นร่วมด้วยไหม? มีเพื่อนร่วมงานคนอื่นด้วยหรือเปล่า? จ้างพนักงานด้วยไหม? ถ้ากิจการรุ่งเรืองแล้วพนักงานไม่พอจะทำอย่างไร? หาพนักงานจากที่ไหน? จ้างพนักงานประจำหรือชั่วคราว? คุณต้องเตรียมวางแผนในส่วนนี้ไว้ด้วย      เนื่องจากคุณต้องเตรียมงบส่วนหนึ่งไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ 
       
       how much .... เปิดร้านต้องใช้เงินเท่าไหร่ ?
           คุณรู้ไหมว่าการเปิดร้านต้องใช้เงินเท่าไหร่? คุณเตรียมเงินไว้ลงทุนเท่าไหร่? ถ้าเงินไม่พอจะทำอย่างไร? จะหาทุนได้จากที่ไหน? หลังจากกู้ยืมมาแล้วจะรับผิดชอบไหวไหม? คาดว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการคืนทุน? การเปิดร้านเป็นธุรกิจ เรื่องการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่คุณละเลยไม่ได้

        how to .... การเปิดร้านกาแฟต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
                 คุณจะเริ่มเตรียมตัวเปิดร้านอย่างไร? จะต้องเตรียมอะไรบ้าง? มีเทคนิคการชงหรือเปล่า? มีความสามารถในการจัดการหรือไม่? มีความสามารถในการวางแผนการเงินไหม? หาวุตถุดิบได้จากที่ไหน? จะแสดงจุดเด่นของตัวเองอย่างไร? ถ้าขายไม่ได้จะทำอย่างไร? 

        ในคำตอบของแต่ละคำถามนั้น จะช่วยให้คุณวางแผนดำเนินกิจการได้อย่างมีเป้าหมาย ตรงความต้องการของคุณ แต่มันไม่ใช่แค่คำถามก่อนเริ่มกิจการอย่างเดียวเท่านั้น หลายครั้งที่เหมือนผ่านไประยะหนึ่งแล้วไม่เป็นตามที่วางแผนไว้ ขอให้คุณย้อนกลับมาใช้คำถามนี้ใหม่ในการวางแผน เพื่อพัฒนาเป้าหมายหรือวางเป้าหมายใหม่ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ 
                 
Download แบบคำถาม แบบสำรวจตัวเอง "6W2H"       

ข้อมูล : หนังสือการสร้างร้านกาแฟยอดนิยม สำนักพิมพ์ Blue Sky Books
รูปภาพประกอบ : http://fineartamerica.com/images-medium/java-u-coffee-shop-montreal-painting-by-streetscene-specialist-artist-carole-spandau-carole-spandau.jpg
                      http://images.fineartamerica.com/images-medium/second-cup-coffee-shop-carole-spandau.jpg

วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555

4 ทักษะสำคัญ เตรียมความพร้อม ก่อนเปิดร้านกาแฟ

         การเปิดร้านกาแฟสักหนึ่งร้าน อาจเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่มี "ทุน" แต่แค่เพียงคุณสตาร์ททำงานในร้านกาแฟจริง ในวันแรกคุณจะรู้ทันทีว่า การทำร้านกาแฟนี้ต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจ ในหลายๆด้าน


         โพสแรกนี้ผมจึงขอพูดถึงสิ่งสำคัญเหล่านี้ ก่อนเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม

ทักษะแรก .... บาริสต้า ( Barista )
       บาริสต้า หมายถึง คนทำเครื่องดื่มในบาร์ เช่นเดียวกับบาร์เทนเดอร์ แต่สำหรับร้านกาแฟที่ดีนั้น บาริสต้า ย่อมเป็นมากกว่าแค่พนักงานชงกาแฟ บาริสต้าที่ดีต้องเป็นหน้าตาของร้านด้วย ทักษะที่สำคัญของบาริสต้านั้น หลักๆเลย คือพื้นฐาน การกลั่นเอสเพรสโซ่ออกมาให้ได้ลักษณะ extraction หรือที่คุ้นหูก็คือลักษณะ  perfect shot นั้นเอง เข้าใจหลักความสัมพันธ์ระหว่าง เมล็ดกาแฟ การบด ระดับของเครื่องบด ( ความหยาบ - ละเอียด ) ระยะเวลาการสกัดเอสเพรสโซ่ และปริมาณเอสเพรสโซ่ที่ได้  นอกจากนั้นแล้วยังมีคุณสมบัติที่สำคัญ ด้านงานบริการ ที่ต้องใส่ใจอีก เพราะบาริสต้าจะเป็นคนที่พบกับลูกค้าโดยตรง การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าจึงเป็นสิ่งจำเป็น 

ทักษะที่สอง .... นักบริหาร ( Businessman )
         การทำธุรกิจใดๆก็ตาม ทักษะการบริหาร เป็นทักษะที่สำคัญ  การจัดการทั้งเรื่องภายนอกและภายใน ระบบการเงิน การบัญชี ถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ความสามารถในการวางแผน มองการณ์ไกล และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และสิ่งที่เจ้าของร้านจะต้องเจอแน่ๆ คือ รายรับ - รายจ่าย การบริหารเพิ่มให้ได้กำไรมากที่สุด จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินกิจการ ทักษะในด้านนี้จะช่วยคุณได้

ทักษะที่สาม ....  นักการตลาด  ( Marketing man )
           การทำให้ร้านเป็นที่รู้จัก เป็นสิ่งสำคัญเสมอ ความเข้าใจต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค การสร้างจุดเด่น จุดขาย จุดแตกต่างให้ร้านกาแฟ และกลยุทธ์ในการแข่งขัน การวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมลูกค้า การมองเห็นช่องว่างทางการตลาด การตอบสนองความต้องการของลูกค้า ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นทักษะทางด้านการตลาดที่จำเป็นต่อคนเปิดร้านกาแฟ ผมคิดว่าบางครั้ง ร้านกาแฟที่สร้างสรรค์รสชาติได้พอใช้ได้ มีมาตรฐาน แต่ทำการตลาดได้สุดยอด มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จได้

ทักษะสุดท้าย .... นักออกแบบ  ( Designer )

           สื่อทุกชนิดมีผลต่อการรับรู้ของผู้บริโภคทั้งสิ้น การเลือกสื่อให้เข้ากับความต้องการ หรือกระตุ้นให้เกิดความต้องการ จะส่งผลดีกลับมาสู่ร้าน ในความเป็นจริง ใครๆก็ชอบของสวยงาม การทำให้ ร้านกาแฟ หรือแก้วกาแฟ สวยงามในความรู้สึกของลูกค้า ก็จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกเข้าร้านคุณ หรือเลือกซื้อกาแฟจากร้านคุณ 
                 อีกส่วนหนึ่ง คือ ความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบ จะช่วยให้คุณเจ้าของร้านทำการตลาดให้เข้ากับพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มลูกค้า 

           ทักษะทั้ง 4 ที่กล่าวขึ้นมาคร่าวๆนี้ เกี่ยวเนื่องกัน และต้องใช้ควบคู่กันเสมอ ยิ่งคุณเจ้าของร้าน พัฒนาทักษะเหล่านี้ได้มากเท่าไหร่ การพัฒนาร้านของคุณก็จะดีขึ้นตามนั้น


ข้อมูลหลัก : http://www.coffeeindy.com